หน้าเว็บ

25 ตุลาคม 2555

2K Corporation - ตอนพิเศษ

SF - 2K Corporation

ตอนพิเศษ : เรื่องเกรียนๆกับปัญหากากๆ

Pairing - ไม่มี
Writer - Taka-Jane
Rate - G
...
..
.
..
...
..
.

ทำไมต้องทูเคย์??
ใส่เครื่องหมายปรัศนีสิบล้านตัว...

เคย์แรกผมก็เข้าใจอ่ะนะว่าเป็นชื่อพี่ชายผมเอง...เคย์ที่สองก็คงเป็นเคย์ของไอ้หัวเม่นที่ตอนนี้ไม่เม่นแล้ว เพื่อนพี่นั่นแหละ
อ้าว...พวกคุณไม่รู้จักผมกันเหรอ! อะไรกันผมออกจะมีบทพอสมควรเลยนะในฟิคเรื่องนี้ ไม่รู้จักผมกันจริงเหรอ...
อย่ามาล้อเล่นกันได้มั๊ย...
...ผมก็คือเพื่อนสนิทของไอ้ลูกหนู และแฟนคลับของป๊ะป๋า พ่วงตำแหน่งน้องชายแท้ๆของเจ้าของบริษัทจัดหาคู่เกย์ทูเคย์คอร์เปอเรชั่นแห่งนี้ไง....รู้จักผมกันยัง
คนอ่านฟิคเรื่องนี้ช่างเข้าใจอะไรยากจริงๆ ขอส่ายหน้าให้กับความจำปลาทอง จะบอกให้นะ ผมหน่ะพระเอกของเรื่องเชียวนะ *กระซิบกระซาบ*
/ไอ้พี่เคย์เดินผ่านมาตบหัว/
 ̄ε  ̄
ทำร้ายน้องในไส้ตกนรกนะเฟ๊ย

อันน้องนี้มีนามว่าริวทาโร่ ชะเอิงเอย ╰( ̄▽ ̄)╭ จำให้แม่นนะเพราะซีรี่ย์ต่อไปคนเขียนสัญญาว่าจะให้ผมกดไอ้พี่เคต


คุณคิดว่าผมหาฝั่งเจอยัง?
ออกทะเลแปซิฟิคไปไกลละใช่ป่ะ
เพราะงั้นเราเริ่มพายเรือวนหาฝั่งกันเถอะ เอ้า! เฮ้ เฮ~ เฮ๊ เฮ เฮ เห่~ ฮ้า....ไฮ่ *ฝีพายพยุหยาตราทางชลมารคมาเอง*



ผมสงสัยอยู่นานมาก สงสัยแล้วก็สงสัยอีก
ว่าพวกพี่ๆมันนึกยังไงตั้งชื่อบริษัทว่าทูเคย์? เอาหัวแม่โป้งเท้าคิด?

"น้องริว...ป๊ะป๋าทอดไข่ดาวไหม้อีกแล้ว~"
เสียงสวรรค์จากในครัวเป็นปกติของทุกเช้าครับที่ป๊ะป๋าเคย์จังของผมจะต้องโวยวายประมาณนี้
ผมบอกหรือยังว่าผมกับไอ้พี่เคย์ก็มีพ่อ? อ๋อ ยังไม่บอกกันเหรอ ทำหน้าตาเหมือนไม่อยากรู้นะเนี่ย
ป๊ะป๋าตาตี่มีเสน่ห์ที่ทอดไข่ดาวไหม้คนนี้แหละพ่อผม อสุจิสองตัวของป๊ะป๋าออกมาหน้าตาดีทั้งคู่มันคือสิ่งเดียวที่ป๊ะป๋าแสนจะภูมิใจ

ป๊ะป๋าชื่อเคย์อิจิโร่ พี่ชายชื่อเคย์ แล้วทำไมผมไม่เคย์? ถามจริง? เรื่องนี้ก็อยากรู้แต่ขอยกยอดไปคราวหน้าละกัน หม่ามี๊ชื่อชิเงะอากิเป็นดาราดังที่ตอนนี้ออนทัวร์อยู่ต่างประเทศ ส่วนป๊ะป๋าเป็นพ่อบ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูก กุลสตรีโพด T^T
ก่อนออนทัวร์หม่ามี๊จ้องผมด้วยสายตาแน่วแน่และเอ่ยปาก'ฝากดูแลป๊ะป๋าด้วยนะน้อง...อย่าปล่อยให้ไปเพ่นพ่านข้างนอก'พร้อมกับน้ำตาไหลพรากๆ
มีอย่างที่ไหนคนเป็นแม่ฝากลูกดูแลพ่อ ˋε ˊ ป๊ะป๋าผมมีอะไรที่ฝากความหวังไว้ได้ป่ะเนี่ยถามจริง

"น้องกำลังสงสัยอ่ะป๊ะป๋า..."
ผมโพล่งออกมาจนป๊ะป๋าทำกะทะไข่ดาวตกใส่ซิงค์ล้างจาน อาเมนพ่อกู ริบสิบที
"นะ...น้องสงสัยอะไรในตัวป๊ะป๋าเหรอครับ"
ไปแล้วสมองพ่อผม
"น้องสงสัยไอ้พี่เคย์กับไอ้พี่เคต...เป็นไปได้มั๊ยป๊ะป๋าว่าสองคนนี้แอบเล่นชู้กันลับหลังไดกิ"
ผมไม่ได้เสี้ยมป๊ะป๋านะ ก็คนมันสงสัยอ่ะ ถึงจะตั้งบริษัทร่วมกันมันก็จำเป็นเหรอที่จะต้องเอาชื่อทั้งสองคนมาเป็นชื่อบริษัท
นอกจากสองคนนี้นึกอยากเป็นพระเอกนิยายวายแนวดาร์คไซด์ ยอมไม่ได้ละคราวนี้ ผมควรไปบอกไดกิ
"ห๊ะ!...พี่กับเคย์โตะคุงอ่ะนะ ตายแล้วอย่างนี้มันก็เป็นปัญหารักสามเส้าเหมือนฟิควายที่ป๊ะป๋าอ่านค้างเมื่อคืนเลย ตื่นเต้นจัง พี่จะเคะหรือจะเมะให้เคย์โตะคุงน้อ..."
-*-
(-*- /(-*- /(-*- /
ผมขอลาออกจากการเป็นลูกของผู้ชายคนนี้



........จบตอนโลด......

18 ตุลาคม 2555

เรื่องสั้น - มนต์รักเรียกหา

เรื่องสั้นคั่นเวลา - มนต์รักเรียกหา

Pairing - กาฬ+อคานิชิ
producer - Taka-Jane



ปฐมบท
กาฬ


- รูป...ร้ายคล้ายสวรรค์มิสรรค์สร้าง
ชั่ว...ชีวิตคิดต่างมิสร้างสรรค์
ตัว...เตี้ยบ่กำยำพร่ำรำพัน
ดำ...แต่นอกในนั้น.....ผ่องเนื้อนพคุณ


กาฬ...เดินย่ำต๊อกอยู่คนเดียวใจกลางกรุงโตเกียวอันแสนเย็นชา
กาฬ...โดนนายหน้าหลอกว่าจะพามาหางานทำ แต่กลับเชิดเงินหนีแล้วปล่อยลอยแพให้เด็กหนุ่มกลายเป็นบุคคลต่างด้าวลอบเข้าเมือง
กาฬ...ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่


เงินสองแสนที่แม่ต้องเอาที่นาไปจำนองเพื่อให้เขาได้มาแสวงโชคในดินแดนอาทิตย์อุทัย ...ที่กาฬตั้งใจว่าจะต้องทำงานไถ่ถอนออกมาได้ภายในปีครึ่ง หายวับไปกับตา
และตอนนี้เขาหิวมาก
ใครบอกว่าญี่ปุ่นอบอุ่นเหมือนบ้าน ทำไมตอนนี้ญี่ปุ่นหนาวจนกาฬแทบจะทนไม่ไหว
เขาเดินมาถึงซอกซอยเล็กๆที่ไร้ผู้คนแห่งหนึ่ง และนั่น......เสียงของกระทบสิ่งใดสิ่งหนึ่งดัง ตุ๊บ!! กาฬรีบวิ่งไปตามเสียงนั้นโดยลืมไปว่าผู้ชายผอมกะหร่องอย่างเขาคงจะช่วยอะไรใครแทบไม่ได้เลยก็ตาม

/ปัง/

กาฬสะดุ้งเฮือกกับเสียงอาวุธที่อันตรายที่สุดในสายตาตัวเอง ทันได้เห็นผู้ชายร่างหนายืนมองเหยื่อผู้ถูกยิงอย่างไม่สะทกสะท้าน
เด็กหนุ่มจากเมืองไทยครางเสียงอ่อนแรง ขาทั้งสองข้างล้าสะสมจนทรุดลงไปทั้งตัว

เห็นแล้วสินะ
เขาเห็นในสิ่งที่ไม่สมควรเสียแล้ว


+;:"##&-+(+;*&฿;?&-;'
อะไร.....ใครพูดอะไรข้างๆหูเขา

*%56-:""&*+?;%฿#@#&&฿
กาฬลืมตาดำขลับ กะพริบปริบๆด้วยความงวยงง...แผ่นหลังกว้างของผู้ชายคนหนึ่งบดบังแสงจากโคมไฟราคาแพงไว้ กาฬจึงสามารถปรับระดับแสงจนมองภาพตรงหน้่าได้ค่อยๆชัดขึ้น

"กะ แก!!!! ฆาตกร!!!"
เขากรีดเสียงแหบๆคับห้อง แล้วมองชายหนุ่มตรงหน้าตาลุกโพลง
เจ้าฆาตกรหันขวับตาวาวแล้วเร่งมช้มืออุดปากเด็กหนุ่มไว้ทันที
//เงียบ!//

เสียงเข้มๆพูดขู่มาเป็นภาษาญี่ปุ่นท่าทางหงุดหงิดนัก
กาฬงับฟันลงบนฝ่ามืออีกฝ่ายเต็มแรง อย่างน้อยถึงจะต้องตายก็ขอให้ได้กลับไปตายที่เมืองไทย เมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงไม่ต้องเกรงกลัวความตาย
เจ้าฆาตกรร้องลั่นสะบัดมือออกจากปากเขา แล้วเอื้อมมาบีบคางผอมเอาไว้

//กล้าดียังไงมากัดกู ไอ้คนต่างด้าวไร้สัญชาติ!//

พูดเสียงลอดไรฟันออกไปพร้อมกับโน้มใบหน้าลง กดริมฝีปากอุ่นบดขยี้ริมฝีปากแห้งผากของเขาหนักๆ
กาฬอึกอักในลำคอ เม้มปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นของอีกฝ่ายเข้ามา...ขยะแขยง!! แต่มันกลับกดร่างบางของเขาลงจมแน่นกับเตียง แล้วซุกไซร้จมูกโด่งเป็นสันเข้าที่หลังใบหูแทน

"มึง....ปล่อยกูนะไอ้ชั่ว ไอ้วิตถารอย่ามายุ่งกับกู!"




.......

เวลา
กาล


สักวันหนึ่งเมื่อเวลาหมุนมาครบ
สักวันหนึ่งคงได้พบประสบพักตร์
สักวันหนึ่งคุ้นเคยเคียงเพียงรู้จัก
สักวันหนึ่ง...คงได้รักเข้าสักวัน


"กาฬ..."
เสียงทุ้มเข้มที่เอ่ยชื่อของเขาสำเนียงไม่ผิดไม่เพี้ยน ยื่นซีดีพูดภาษาญี่ปุ่นแบบเร่งด่วนฉบับไกด์นำเที่ยวมาให้ตรงอ่างล้างจาน ร่างใหญ่ยืนซ้อนหลังและโอบเอวกาฬไว้ รั้งให้หันมามอง

"จ๊ตโตะมัตเตะ อคานิชิ...ผมกำลังล้างจานอยู่"
กาฬยังคงเป็นกาฬที่พูดไทยคำญี่ปุ่นง่ายๆคำ อีกฝ่ายชิงหอมแก้มแดงเรื่อของเขาแล้วรีบปล่อยตัวให้ยืนล้างจานด้วยร่างทรงของมะเขือเทศอย่างพออกพอใจ

อคานิชิ...ไม่ใช่คนดี
อคานิชิ...ฆ่าคนตายและตีหน้าซื่อยิ้มแย้มต่อหน้ากฎหมาย
แต่อคานิชิช่วยเหลือกาฬ

อาจจะเพราะเวทนาเด็กผู้ชายผอมกะหร่องดำมะเมื่อมอย่างเขาหรือจะด้วยอะไรก็ตาม อคานิชิก็กลายเป็นผู้ปกครองของกาฬในประเทศที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ไปแล้ว

"กาฬ...เรียนของผม เหมือนกัน"

เป็นคำชวนที่แสนจะวกวน มะเขือเทศกาฬที่เร่งล้างจานให้เสร็จลวกๆต้องรีบหันไปแสดงความสนใจ
ไม่เช่นนั้นภาษาไทยอาจจะวิบัติเพราะหนุ่มญี่ปุ่นเรียงประโยคที่วกวนก็เป็นได้


"อากะแปลว่าสีแดงเหรอ...งั้นคุณก็ต้องเป็นสีแดงนะเพราะชื่อผม...กาฬ แปลว่าสึดำ..."
"ไฮ่ ผมชื่อแดง เข้าใจ..."
"ไหนบอกมาสิว่าแดงสะกดยังไง..."
สีหน้าเหมือนเด็กน้อยโดนครูถามเรื่องที่สอนบนกระดานกะทันหันทำให้กาฬต้องหลุดหัวเราะคิกด้วยความเอ็นดู
ข้างนอกกาฬไม่สนใจว่าอคานิชิจะน่ากลัวและนิ่งขรึมแค่ไหน แต่เจ้าตัวเมื่อกลับมาบ้านกลับเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการคนเล่นด้วยตลอดเวลา จนบางครั้งกาฬเองยังทำตัวไม่ถูกระหว่างนั่งเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองรออีกฝ่ายที่บ้าน...หรือเอาตัวเองมัดติดกับอีกฝ่ายไว้แล้วได้ศึกษาภาษาญี่ปุ่นในชีวิตจริง...เด็กคนนี้จะชอบแบบไหนมากกว่ากัน

"กาฬ....แกล้งผม..."

"ฮ่าๆๆๆๆๆ คาวาอี้นะอากะจัง..."

กาฬหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับใบหน้าตูมๆงอนๆไม่เหมาะกับบุคลิกนั้น

"อ๊ะ...อุ๊บ...อืมมม"
หนุ่มหล่อที่อ่อนด้อยในภาษาไทยชิงเหตุการณ์ไม่ระวังตัวของหนุ่มน้อยผิวเข้มเป็นโอกาสอันดีที่จะ.....จูบ

"อาส์...กาฬ...ที่รัก..."




......

ที่รัก
กานต์


รักไม่มีเหตุผลกลประกอบ
รักที่มอบด้วยเพราะรักจากที่เห็น
รักกำเนิดเกิดเพราะรักจากที่เป็น
รักไม่เว้นเพศไหนไหน...ไม่ห้ามปราม


//เหมือนจะว่างนะพี่แดง//
จะผิดไหมที่ภาษาญี่ปุ่นประโยคนี้คนพูดเป็นคนไทย
"ไม่ว่างหรอก...กำลังเดินเรื่องขอกลับประเทศให้น้องแดงอยู่เลย..."
ผิดอีกหรือไม่ที่คนพูดภาษาไทยประโยคนี้เป็นหนุ่มสัญชาติญี่ปุ่นแท้ 100%
//ไม่รอให้ลูกบวชก่อนเหรอพี่//
น้องดำประชดพี่แดงหน่อยๆ ด้วยบอกให้ไปจัดการให้ตั้งนานแต่พ่อคุณดันผัดผ่อนมาเรื่อยจนเกือบหนึ่งปี
"โกนจุกก็พอ..."
ยักคิ้วหลิ่วตาส่งมาอย่างล้อเลียน
และก็ได้รับกำปั้นจากหนุ่มไทยผิวแทนที่อกดัง อึก! เป็นการตอบแทน
"ถ้าไม่ว่างขนาดนั้นแล้วมากอดผมไว้ทำไมละพี่ กำลังคัดคันจิอยู่เนี่ยไม่เห็นเหรอ..."
กล่าวออกไปก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้ามึน พร้อมกับเสียงออดๆที่ส่งกลับมา
//ไม่ปล่อยให้ทำใจกันเลยหรือไง เมียจะหนีกลับบ้าน.นี่สินสอดก็ยังไม่ทันได้เตรียม...//


กาฬได้แต่เม้มปากแน่นส่งค้อนให้คนข้างหลัง ขี้ตู่นัก เที่ยวบอกใครต่อใครให้ทั่ววงการว่ามีเมียซ่อนไว้ที่บ้านแล้ว เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ
"แม่ผมต้องหัวใจวายแน่ๆ..."

//สำหรับแม่พี่ไม่เป็นห่วงหรอก...ห่วงก็แต่ไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่ชื่อสามภพนั่นมากกว่า เอาสองแสนไปไถ่ที่ดินคืนจากมันแล้วห้ามคุยกันอีกนะ...รู้ตัวไว้บ้างว่าตัวเองไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยเหมือนแต่ก่อน มีสามีหัวโด่อยู่ทั้งคน...ขี้หึงมากด้วย//
ครับ พ่อมหาจำเริญ มะเขือเทศกาฬได้แต่นั่งก้มหน้างุดๆกับสิ่งที่อีกฝ่ายฝากฝัง ใครเป็นสามีใครกัน...ไม่มาตกลงกันทั้งสองฝ่ายแล้วขี้ตู่เอาเองอีกแล้วนะพี่แดง

"เพื่อนกันหรอก กับไอ้สามหน่ะแก้ผ้ากระโดดน้ำด้วยกันตั้งแต่เด็ก..."
บอกไปแล้วก็เห็นฝ่ายที่ตู่ว่าเป็นสามีทำหน้าโหดขึ้นมาทันที
//กำลังจะลืมเรื่องแก้ผ้าโดดน้ำนี่อยู่แล้วเชียว...//
เสียงที่ตอบมาต่ำพร่า ตาขวาง จนกาฬชักจะใจไม่ดี เพราะรู้แน่ว่าตอนนี้อีกฝ่ายหึงจริงไม่มีสลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน
"ง...งะ...งั้นให้แม่เอาเงินไปไถ่ที่เถอะนะ ผะ...ผมจะได้ไม่ต้องเจอหน้าไอ้สามอีกไง"
รีบละล่ำละลักบอกออกไปทันที
//กลัวเหรอ...ทำไม...ไม่ไปฆ่ามันตายหรอกน่า ถ้าไม่มาทำตัวสนิทสนมกับเมียชาวบ้านละก็นะ//
อคานิชิกอดกระชับร่างเล็กๆมาชิดกับอกมากยิ่งขึ้นแววตาแสดงออกว่ารักว่าหวงปิดไม่มิด...และไม่ปิด


กาฬส่ายหน้างุดๆ
"ถ้ารักไอ้สามแบบนั้นไม่ดั้นด้นมาเสี่ยงโชคไกลถึงนี่หรอกน่า..."

//ที่ไม่รักเพราะยังไม่ใช่ที่จะรักไง...เพราะน้องดำต้องรักพี่แดงเท่านั้น//
"บังคับตลอด..."
กาฬพ้อเบาๆ เพราะยิ้มกว้างจนปวดแก้มไปหมดแล้ว


......................... END..................

เรื่องสั้นป่วงๆที่แต่งเพราะได้พล็อตมาตอนไปนั่งขี้ที่ส้วม(จะบอกเพื่อ?)
ธีมเรื่องง่ายๆ...แค่คำว่า กาฬ ตัวเดียวที่โผล่เข้ามาในหัวตอนกำลังเบ่ง <<อิบ้า
ก็เลยเอาคำพ้องเสียงมาเล่นเป็นนิยายสั้นๆ แต่งเอามันส์ว่างั้นเถอะ
กาฬ*สีดำ กาล*เวลา กานต์*ที่รัก..........และทั้งสามตอนย่อยๆแต่งด้วย กานท์*ร้อยกรอง

ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านนิยายด๊อกด๋อยจนจบคำเพ้อของคนเขียน
ป.ล....ชื่อพระเอกหาเอาสิ้นคิดจากอดีตผัวเพื่อน เอ๊ย! อดีตสมาชิกวงคัตตุน

10 ตุลาคม 2555

SF - 2K corporation [NakaYama]

SF - 2K corporation [NakaYama]
ซีรี่ย์ 3 รอยตักเคยหนุนยังอุ่นอยู่ไหมทรามเชย
Pairing - Yuto x Ryosuke
Writer - Taka-Jane
Rate - PG-13
>>>>>>>>>>>
ยามาดะเหลือบมองชายชุดดำที่ยืนคุมเชิง
อยู่หน้าห้องพักส่วนตัวของคนรัก ขณะที่
เขารีบเปิดประตู
เข้าไปข้างในคนพวกนั้นมองเขา
ด้วยสายตาแปลกไป...
แต่ยามาดะก็แค่โค้งนิดๆยามต้องเดินผ่านพวกเขา
เข้าไปและยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเท่านั้น
คบกันมาเพียงสามเดือน แต่ยูโตะกลับทำ
ให้นักร้องธรรมดาอย่างเขา
ได้รู้จักแวดวงมาเฟียมากขึ้น เป็นผลดีของการ
เป็นแฟนกับมาเฟียที่ยามาดะนึกขอบคุณ
"กลับมาแล้วเหรอครับ"
เขากล่าวต้อนรับยิ้มๆให้กับร่างสูงที่ยืนหันหลัง
ให้ท้าวแขนด้านหนึ่งกับกรอบหน้าต่าง
ดวงตาจ้องมองไปที่ยามค่ำคืนของโตเกียวด้านนอ

....ดาวแต้มดิน....
"คิดถึงผมไหมเรียวสุเกะ"
ร่างสูงพูดเบาๆเสียงแค่ผ่านลำคอ แต่ยามาดะก็
ไม่ได้สนใจในท่าทีของคนรักที่ดูแปลกไป
"คิดถึงสิ"
ยามาดะยิ้มกว้างแล้วโอบเอวคนรัก
จากด้านหลังอย่างไม่เคยทำมาก่อน
ร่างกายของยูโตะดูเกร็งขึ้นทันทีที่เขาสัมผัส
"คุณคิดถึงผมแค่ไหน"
เสียงกระเส่าอ้อนจากคนในอ้อมกอด...
ช่างอ่อนหวานยิ่งนัก
"บอกสิ...บอกมาด้วยร่างกายนี้"
ยูโตะหันขวับมาทิ้งตัวลงบนโซฟาสีเขียวปีกแมลงทั
บกลางห้อง แล้วคว้ามือของเขา
ไว้พร้อมรั้งตัวยามาดะลงมานั่งบนตักแกร่ง
"ยูโตะ....ผม"
เสียงหวานตระหนกจนตัวเองยังจับสังเกตุได้
ริมฝีปากร้อนชื้นที่แตะแต้มลงมาที่หลังคอช่างรุกเ
ร้าเสียจนยามาดะเสียวสันหลัังขึ้นมาอย่างอธิบาย
ไม่ถูก
"ต้องการผมหรือยัง ฮึ! เรียวสุเกะ"
สองมืออุ่นขยับรั้งสะโพกนวลให้แนบชิดกับ
ความร้อนชื้นและโป่งนูนของความ
ต้องการอันลึกล้ำ
ยามาดะครางเสียงแผ่ว
กับริมฝีปากอบอุ่นที่เล็มไล้ไปมาที่กลีบปากอิ่มราว
กับจะยั่ว...
นิ้วมือเรียวของยูโตะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวข
องเขาออก
และดึงรั้งออกไปอย่างรีบร้อนจนเกือบ
เป็นกระชาก
"อยากได้แล้วใช่ไหม!!"
"ยะ...อยาก"
ยามาดะหอบขณะบิดเร่าเพราะความเร่าร้อนที่
ได้รับปรนเปรอจากริมฝีปากหวาน
ยูโตะลูบมือสอดเข้าไปไล้กับผมสลวย....
ดึงกระชากขึ้นตามแรงที่มีจนยามาดะแหงนหงาย
น้ำตาคลออย่างเจ็บปวด
"อยากมากใช่ไหม...ถ้าอยากมากนักก็ลืมตาขึ้นมา
ยามาดะ เรียวสุเกะ!"
น้ำเสียงเย็นชา....และเป็นคำสั่ง
ยามาดะตื่นตระหนกกับ
ความเปลี่ยนแปลงกระทันหันของคนรัก
"ร่านมากสินะ"
"ยูโตะ...นี่อะไร"
ยามาดะกรีดเสียงเรียกอีกฝ่ายอย่างตื่นๆ
ในขณะที่อีกฝ่ายเหวี่ยงตัวลุกพรวด
แล้วจิกกระชากผมนุ่มของเขาให้ลุกขึ้นอย่าง
ไม่ปราณี
แววเกลียดชังในดวงตานั้นทำ
ให้ร่างบางกลัวจนตัวสั่น นึกกลัวแววตา
นั้นที่เคยทอดมองอย่างอบอุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิต
"ยูโตะ ยูโตะ คุณ.... เกิดอะไรขึ้น
ผมกลัวอย่าทำแบบนี้ขอร้อง..."
ร่างบางครางเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เมื่อมือ
ใหญ่จิกผมเขาแน่นเข้าพร้อมกระชากศีรษะเขากด
กับโซฟาเต็มแรง
"ขอร้องเหรอยามาดะ... ขอร้องผัวหลัง
จากหนีไปเล่นชู้กับผู้ชายคนอื่นถึงฮ่องกงนะเหรอ
แกคิดว่าฉันโง่นักหรือไง!.."
น้ำเสียงลอดไรฟันอย่างน่ากลัว
"มันเป็นงาน ยูโตะ...แค่ก...แค่กๆ.."
ยูโตะโถมตัวลงไปบีบแน่นที่ลำคอเนียนที่เคยแตะ
ต้องแผ่วอย่างทะนุถนอม
"ฟังผมบ้าง...ได้โปรด"
ร่างสูงออกแรงกดจนยามมดะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่
จะเปล่งเสียง เขาพยายามสูดอากาศ
เข้าสู่ปอดขณะที่น้ำตาก็ไหลเป็นทางยาวให้
กับโชคชะตาที่เล่นตลก
ก่อนจะหมดสติไป.....
>>>>>>>>>>>
ใครกันหนอยืนมองสบตาฉัน
ใครคนนั้นที่ดูดังเมฆสีดำ
ยืนมองไร้ถ้อยคำ...ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ
ใคร.....ใครนะเออ
ใจดวงนั้นคงจะแตกสลาย
ใจของผู้ชายที่แกร่งเสมอ
เหตุใดดูดังคนละเมอ...ดวงตาคู่นั้นมองเหม่อ
เป็นเพราะเธอทำลายดวงใจ
เกิดเป็นผู้ชายต้องมีใจอดทน
กี่ครั้งกี่หนทนเจ็บเอาไว้
จะคอยทำร้ายใจกันอีกนานถึงไหน
หรือผู้ชายเสียใจไม่เป็น?...
รูปถ่ายสีขาวดำขนาดขยาย...
รูปที่เรียวสุเกะแย้มยิ้มให้ผู้ชายข้างหลัง
รูปที่เรียวสุเกะโดนผู้ชายคนนั้นโอบไว้ทั้งตัว
รูปที่เรียวสุเกะนั่งกินข้าวสองต่อสองกับใครที่เขา
ไม่รู้จัก
และรูปสุดท้ายที่เรียวสุเกะนอนอยู่
ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนๆนั้น
เรียวสุเกะตอนหลับมีเสน่ห์แสนจะกระตุ้นกำหนัด
จากรอบข้าง เสียดายที่คนของ
เขาถ่ายรูปขาวดำมาจึงไม่เห็นว่าเลือดฝาดของคน
ในรูปนั้นน่าดูเพียงใด
เรียวสุเกะที่หักหลังเขา เรียวสุเกะที่ทรยศต่อความรักที่เขาทุ่มให้ทั้งใจ
ยูโตะกลืนก้อนแข็งๆลงไปในลำคออย่างยากเย็น ถ้าภาพนี้เป็นภาพสีจะเห็นว่าผิวที่เนียนนุ่ม เส้นผมสีน้ำตาลเป็นประกายยามระใบหน้าหวานนั้นมีเสน่ห์เพียงใด


ถึงจะพร่ำบอกตัวเองว่าอีกฝ่ายทรยศเขา แต่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจเมื่อคนที่ตัวเองรักต้องกลายเป็นแบบนี้เพราะเขาเอง
อดไม่ได้ที่จะขอมองใบหน้าสวยๆนั้นยิ้มให้กับคนของพี่...
อดไม่ได้ที่จะหวังให้ย้อนเวลากลับไปแล้วสู้ไม่รู้จักกันเสียจะดีกว่า
"แกใจร้ายมากยูโตะ พี่ไม่เคยสอนแกให้ทำร้ายคนที่ตัวเองรัก แกเชื่อสิ่งที่ตาแกเห็นแต่ไม่เคยจะใช้สมองระดับปริญญาโทใตร่ตรองมัน แกเชื่คนทั้งโลกแต่ไม่เชื่อใจคนที่แกรัก พี่ผิดหวังในตัวแกจริงๆ"
ยูโตะได้แต่ค้านพี่อยู่ในใจ
แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เขาไม่เชือ ในเมื่อเรียวสุเกะงดงามขนาดนี้ น่าปรารถนาขนาดนี้ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่เคยมองเรียวสุเกะด้วยสายตาแห่งความต้องการ
ทุกคนต่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเป็นเจ้าของเรือนร่างงดงามนี้กันทั้งนั้น
ยูโตะรักเรียวสุเกะมากเสียจนอยากจะยกโทษให้แทบทุกๆเรื่องเสียด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เขายกโทษให้เรียวสุเกะที่ทำร้ายหัวใจของเขาเพื่อผู้ชายคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด
"แกดูความใจร้ายของตัวเองซะให้พอใจ"
พี่ชายเพียงคนเดียวช้อนตัวลูกชายหน้าหวานขึ้นอุ้ม เดินดุ่มๆออกจากบ้านด้วยความกราดเกรี้ยว
ความเหมือนของเขาและยูยะที่ยูโตะไม่อยากจะยอมรับ...โมโหร้าย

เรียวสุเกะนั่งเล่นดินน้ำมันอยู่ตรงบันได เขาดูมีความสุขมากกับกระต่ายสีชมพูในมือ และดูสวยบอบบางในชุดหมีสีเนื้อลายโดเรม่อน
ยูโตะรู้สึกรวดร้าวเมื่อสบตาที่บังเอิญเงยขึ้นมาแล้วพบว่าในดวงตาสีดำสนิทนั้นมั่ว่างเปล่าจนน่าใจหาย
ให้อีกฝ่ายจำเขาได้และตะโกนไล่ออกไปยังจะดีเสียกว่า
ดีกว่าในตอนนี้ที่เขาไม่มีตัวตนในสายตาคนๆนี้เลย
ดวงตาคู่นั้นจ้องเขาอย่างสงสัยครู่เดียว ก่อนจะหันเหความสนใจไปที่กระต่ายในมืออีกครั้ง
อยากกอด อยากจูบ อยากโอบร่างน้อยเอาไว้แล้วปลอบประโลม ณ ตอนนี้ความรักความเกลียดมันปนกันจนจนร่างสูงแยกไม่ออกจริงๆว่าควรทำยังไงกับคนตรงหน้าดี
สายตาเหลือบไปเห็นกบสีเขียวที่ลูกชายของพี่ปั้นทิ้งไว้ ไม่ทันจะยั้งขาไว้ได้ตัวเขาก็ก้าวเข้าไปหยิบมันขึ้นมา และยื่นให้คนตรงหน้ารับไว้ด้วยความสงสัย

"กบ..."
เขาบอก และฝืนยิ้มใส่ตากลมแป๋วคู่นั้น เรียวสุเกะเพียงแค่มองปากเขาและละความสนใจไปพินิจพิศกบในมือแทน

"กบที่ร้องอ๊บๆใช่มะ?"

"ใช่...อ๊บๆไง"
ยูโตะเบือนหน้าให้กับความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะผ่านไปสองเดือน สองปีหรือสองศตวรรษ ก็ยังเป็นเขาคนเดิมที่คิดอยากรั้งเรียวสุเกะให้อยู่ด้วยกันตลอดไป

อา...

เขาคิดว่าหัวใจตัวเองมันด้านชาจนไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้วเสียอีก

.........

"เย้ เย้ เย้ วะ โอ๊วววว..."
รถเคลื่อนที่ออกจากบ้านหลังใหญ่ของตระกูลทาคาคิพร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนของยูริกับเรียวสุเกะประสานกัน เดี๋ยวก็ฮัมเพลงในคอกันอย่างมีความสุข
จนกระทั่งยูยะพารถเคลื่อนเข้ามาจอดภายในบ้านหลังกะทัดรัดกลางฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่
"ว๊า ถึงบ้านเรียวจังซะแล้ว"
ลูกชายของยูยะบ่นงึมงำพลางกอดเรียวสุเกะไว้เหมือนเด็กหวงของ

ไม่ทันไรรถอีกคันของบ้านทาคาคิก็แล่นเข้ามาจอดต่อท้าย ตามมาด้วยชายหนุ่มร่างสูงที่ก้าวเร็วๆยาวๆมาที่รถพี่ชายทันทีอย่างหัวเสีย
"เรียวสุเกะ...ลงมา!!!"
สายตานั้นน่ากลัวจนเรียวสุเกะต้องซุกหน้าหลบกับซอกคอของลูกชายยูยะ ร่างบางตัวสั่นด้วยความกวาดกลัว
"หลีกยูโตะ! ไม่ใช่เรื่องของแก"
ผู้เป็นพี่เปิดประตูด้านคนขับแล้วก้าวขาลงมายืนเคียงความสูงกับน้องชายหัวแข็งของตัวเอง
"ไม่ใช่ได้ยังไง.."
ยูโตะผลักไหล่พี่ชายกระแทกประูฝั่งผู้โดยสารที่ยูริกำลังจะเปิดออกเต็มแรง
"สองครั้งแล้วนะที่พี่พาเรียวสุเกะหนีผม!! คิดว่าจะพ้นหรือไงห๊ะ!"

"ถ้าแกยังบ้าอยู่แบบนี้ฉันจะพาเรียวจังหนีแกเป็นร้อยเป็นพันครั้งเลย จนกว่าแกจะสำนึกได้..."
ยูยะเสียงกร้าวกับน้องชายเป็นครั้งแรก
พี่ชายเหลือจะอด เหลือจะทน
"ไปไหนก็ไปเลยยูโตะ..."
ลูกชายตัวจ้อยของพี่ชายขู่สำทับ

บังอาจกอดคนของเขา!!

แค่นั้นคงไม่อาจทำร้ายจิตใจของยูโตะได้มากเท่าไหร่
เพราะร่างบางของผู้ชายที่ยูโตะจำได้แม่นในความทรงจำนั่นต่างหาก.....ที่ก้าวออกมาจากบ้านพร้อมกับเคย์เพื่อนสนิทของพี่ชาย และตะคอกพวกเขาเสียงขุ่น

"เอะอะโวยวายกันเข้าไป! คนหรือสัมภเวสีกันวะ ล๊งเล๊งขอส่วนบุญตั้งแต่เช้าเชียว"

"เรียวจังมานี่มา เดี๋ยวเชื้อบ้าพวกมันปลิวใส่"

"มึงเป็นใคร!!!!!!"

น้องชายของยูยะถามลอดไรฟัน
จำได้ใช่ไหม จำได้ ท่าทีเป็นห่วงเป็นใยและรอยยิ้มที่เรียวสุเกะในตอนนี้มีให้ฝ่ายนั้น
จำไม่เคยลืม!!! ชู้ของเรียวสุเกะ

"ผัวกู..."
สิ้นคำของเคย์ ยูโตะยืนอึ้งไปนิดเดียว กำลังจะอ้าปากถามฝ่ายนั้นที่รีบประคองเรียวสุเกะเข้าไปในบ้าน
"พี่ชายเรียวจังไง...แฟนพี่เคย์"

หรือผู้ชายเสียใจไม่เป็น

.........................FIN..........................

9 ตุลาคม 2555

SF - boku no cinderella [TakaChii]

SF - Boku no Cinderella [TakaChii]
.....ฟิคสั้นเฉพาะกิจ......

เคยเห็นคนตายเพราะอาหารเป็นพิษไหม?
อาจจะมีเพียง 3 ในล้านคนที่ตายเพราะสาเหตุนี้...และทาคาคิ ยูยะ กำลังจะเป็นหนึ่งในนั้น ˋε ˊ

"เอ่อ...มันกินได้ใช่ไหมลูก"
คุณพ่อลูกหนึ่งจ้องกล่องข้าวที่ผูกด้วยผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองลายสก็อตตาไหวระริก
ลูกกูจะทำปิตุฆาตใช่ไหมนี่!
"ป๋าไม่เชื่อใจหนูเหรอ..."
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังเปลี่ยนเป็นไหวไปด้วยความลังเล...ที่เขาทำท่าเหมือนจะปฏิเสธความหวังดี
คุณคิดว่าคุณป๋าผู้รักลูกจะทำอะไรได้?....นอกจากไว้อาลัยให้กับชีวิตของตัวเอง และแอบอโหสิกรรมให้ลูกรักไว้เสียแต่เนิ่นๆ
"ละ...ลูก หนูอย่าร้องไห้สิป๋าใจไม่ดี ไม่เอาไม่ร้องนะป๋าแค่ถามไปงั้นแหละ มันเป็นมุกไง มุก...แหะๆ"
รีบความอาวุธสังหารมากอดเอาไว้เหนียวแน่น เห็นสีหน้าดีใจของลูกหนูแล้วคุณป๋าก็เพิ่งคิดได้ว่ายังไม่ได้เขียนพินัยกรรม
คงไม่เป็นไรละมั้ง มรดกก็ตกเป็นของฆาตกรหน้าใสนี่แหละ...
"กลับบ้านไวๆนะหนูจะทำกับข้าวรอ" ตึ่งโป๊ะ! ป๋าว่าป๋าตายตั้งแต่กล่องข้าวแล้วลูก T^T

"เป็นเหี้ยอะไรยูยะ!...มึงปล่อยให้คู่เดทนั่งจ้องมึงนานไปแล้วนะ จะกินก็กินข้าวกล่องหน่ะกูจะได้โซ้ยซุปเห็ดอย่างสบายอารมณ์หน่อย"
"คู่เดทพ่องงงง!! ได้ข่าวมึงมาชวนกูเอง"
แล้วก็หันไปจดๆจ้องๆกล่องข้าวต่อ เปิดดีไหมหว่า? เปิดออกมาไอ้เคย์มันจะผื่นขึ้นป่ะเนี่ย <<ลูกมึงได้ยินมึงตายคะยูยะ!
"ปลาแรด...ทอด อร่อยป่ะวะเคย์"
"อร่อยสู้ข้าวกล่องลูกมึงไม่ได้ละมั้ง...แสรดดดด นี่หวงไม่อยากให้กูชิมใช่มะถึงไม่เปิดซะทีเนี่ย"
เคย์ค้อนแรดๆให้ยูยะแล้วค่อยๆก้มไปโซ้ยอาหารภัตตาคารต่อ
ใครจะรู้ว่ากูหวังดีต่อมึงนะไอ้เคย์ ถึงตัวกูจะตายกูยังไม่วายห่วงมึง ขืนมาชิมได้ตายคู่กันพอดี...แล้วใครจะโทรเรียกปอเต๊กตึ๊ง?
"ยูยะครับ จะแดกก็แดกอย่าลีลามาก กูมีเวลาให้มึงครึ่งชั่วโมงเองนะหอย"เคย์ที่เริ่มอิ่มเพราะโซ้ยจนหมดแล้วบอก ประมาณว่าคนหล่อๆอย่างกูไม่ได้มีเวลาทั้งวันนะครับ
คุณพ่อลูกหนึ่งจึงจำตัองแกะห่อข้าวกล่องตัวปัญหาอย่างจำยอม หิวจนท้องไส้ปั่นป่วนก็จริง จะไม่กินก็คงได้ แต่นี่มันข้าวกล่องกล่องแรกในนชีวิตลูกหนูเลยนะ กล้าทิ้งเหรอ
การเปิดฝากล่องข้าวเป็นที่ลุ้นระทึกขวัญของทั้งสองหนุ่มหล่อในห้องทำงานประธานบริษัทยิ่งนัก
ท่านประธานเจ้าของห้องค่อยๆแงะฝากล่องออก พบว่าข้างในเป็นข้าวผัดสีชมพูที่ปั้นให้อยู่ในรูปจอมมารบูตัวอ้วน มีไข่ม้วนเป็นพร็อพตกแต่ง ข้างๆกันเป็นทาโกะยากิบิดๆเบี้ยวๆติ๊ต่างว่าเป็นดราก้อนบอลเพราะมื 7 อัน แถมด้วยข้าวม้วนช็อคโกแล็ต
"แดกเข้าไปจะตายไหมวะ"
เคย์มองด้วยสีหน้าสมเพช และพูดคำที่ยูยะอยากบอกกับคนทำมานาน...กูจะตายใช่ไหม?
"ลูกมึงแน่ใจใช่ไหมว่าช็อคโกแล็ตมันแดกกับข้าวได้..."
ดูคุณชายเขาตอกย้ำซัำเติม
"ยุ่งหน่ะ ลูกหนูไม่ฆ่ากูหรอก กูโคตรมั่นใจ" แต่เสียงสั่น
"แต่กูบรรพบุรุษมั่นใจเลยว่ามันตั้งใจฆ่ามึงโดยไตร่ตรองไว้ก่อน..."
เคย์ทำหน้าเหมือนรู้เรื่องอะไรดีๆที่เป็นสาเหตุแห่งการฆาตกรรม
"กะ กูขอร่องรอยการสันนิษฐาน"
"ผู้หญิงที่เข้าโรงแรมกับมึงเมื่อคืน จำนวนถุงยางที่กระเป๋ามึง และโทรศัพท์เลขหมายล่าสุดของมึงไงควาย..."
อ่า.....ยูยะถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็รู้สาเหตุการตายของตัวเอง
...
..
ป๋ากูบ้าหรือป๋ากูโง่!!!
ยูริได้แต่เดินอ้อมโลกไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน
ทั้งๆที่ส่งไอ่พี่เคย์ไปทัดทานแล้วยังจะเสือกกินไอ้ข้าวกล่องเวรนั่นอยู่อีก
ทำลูกร้องไห้สองรอบแล้วนะว้อย!!!
"กูโคตรเวียนหัว ยูริมึงนั่งลงเลย..."
"มึงนั่นแหละนั่งลงไอ้พี่เคต เสือกอะไรด้วยเพื่อนกูมันห่วงพ่อมันมึงเห็นป่ะ...กูว่าแล้ว พี่ชายกูแม่งไม่ได้เรื่องหอยหลอดอะไรหรอก รู้งี้กูไปเองดีกว่า..."
"ริวจะไปทำไม พี่ไม่ยอมหรอก..."
"ถ้าทำงานไร้ประสิทธิภาพกันแบบนี้กูกับไดกิไปลุยเองดีกว่ามั้ง"
"แสรดดดด ไอ้น้องเวร อย่ามายุ่งกะผัวกู"

ป๋ากูจะตายจริงๆก็เพราะเสียงพวกมึงนี่แหละ!!!

การผ่าล้างท้องเป็นไปด้วยดี ถึงหน้าห้องฉุกเฉินจะไม่ค่อยสงบบ้าง แต่ในที่สุดป๊ะป๋าก็ถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้นธรรมดา
ยูริไล่คนที่มาออกันเต็มห้องให้กลับบ้านได้อย่างทุลักทุเล
เจ้าหนูถือผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัว
พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็พยว่า...ป๋ามองตาแป๋วอยู่บนเตียงซะแล้ว!
"ตื่นแล้วเหรอฮะ...หิวป่ะ คุณหมอบอกว่าหลังผ่าตัดป๋ายังกินอะไรไม่ได้นะ กลืนน้ำลายไปก่อนละกัน"
เชิดเนียนๆ ไปหยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัวต่อหน้าผู้ป่วยนี่แหละ
"อือ...หายโกรธยังครับ"
"จิ๊...ไม่ต้องมาครับเลย"
เจ้าหนูสะบัดบ๊อบคอแทบหลุด หน้าแดงซ่านกับสายตางอนง้อคู่นั้น
"หนูไม่รักป๋าแล้วเหรอ..."
"ป๋าทำให้หนูร้องไห้...ป๋านั่นแหละไม่รักหนู"
เจ้าหนูกลั้นก้อนสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ตรงลำคอ มันน้อยใจเสียใจไปหมดเมื่อผู้หญิงคนนั้นโทรหาป๋า รู้ว่าป๋าอยาก...แต่ไม่เคยมีใครโทรมาได้เหมือนคนนี้ คงสำคัญจนแลกเบอร์ติดต่อกันเลยสินะ
"อ้าว...ไอ้เราก็อุตส่าห์ทิิ้งไดอิ้งเมสเสจไว้ให้..."
คนป่วยพักฟื้นขืนตัวลุกเดินไปทรุดตัวลงข้างๆลูกหนูของตัวเอง นิ่วหน้านิดๆด้วยความเจ็บแผลผ่าตัด
แต่ก็ยังฝืนเอื้อมมือไปประคองใบหน้างามให้หันมามองกัน
"ป๋ากินทำไม กินทำไม! ป๋าจะเอาคืนหนูใช่มั๊ย...ฮือๆๆ ไอ้พี่เคย์แม่งไม่ได้เรื่องอะไรซักอย่าง...ห้ามเพื่อนแค่นี้ยังไม่ได้ ฮือๆๆ หนูโกรธทั้งสองคนเลย!"
ไอ้หนูโวยวายเสียงสั้น เอาหน้าซุกกับไหล่ผู้เป็นพ่อ อยากกอดแน่นๆก็กลัวสะเทือนแผลป๋า จนป๋าต้องกอดเอาไว้ทั้งตัวแทน...
"ทำไมหนูพูดไม่เพราะหล่ะยูริ ไปโทษพี่เคย์ก็ไม่ถูก ป๋าเองแหละที่ฝืนกินมันเอง ก็นั่นหนูเป็นคนทำนะ...ป๋าทิ้งของที่หนูทำเพื่อป๋าไม่ได้หรอก ถึงจะรู้ว่าทำให้เพราะอะไรก็เถอะ...แล้วไดอิ้งเมสเสจหล่ะได้รับยังครับ..."
คุณป๋าลูบหลังลูกแผ่วๆ
"ได้แล้ว...ฮะ"
"ฟังยัง..."
"ฟังแล้ว..."
"หายโกรธป๋าแล้วใช่ไหมครับ...ยูริ"
พูดจบไม่ต้องรอฟังเสียงตอบรับ เพราะเจ้าหนูกระทำการอุกอาจจับคุณป๋าปิดปากด้วยริมฝีปากนุ่มซะเลย ค่าชอบทำให้ลูกเขินดีนัก
/รอยเล็บเหน็บรักติดปักฝังแนว...เหมือนรอยแมวข่วน
พี่ครางพี่ครวญแต่นวลน้องยังไม่พอ
หยิกไปให้สมอารมณ์ขุ่นหมอง ไม่ต้องรั้งรอ
ต่อน้องเพียงพอ...พี่ขอจูบคืน/
.............รอยรักรอยเล็บ..........


.......................... FIN ............................

7 ตุลาคม 2555

SF - OkaMori (บ่วงบรรจถรณ์)

SF - บ่วงบรรจถรณ์ (OkaMori)
...ฟิคสั้นเฉพาะกิจ...

ฝันหวานประทานน้อง พิละล่องกระสันสวาท
แก้มอุ่นละมุนชาด ระริกเรื่อกระสับกระส่าย
มนต์ตรา ณ ครานี้ สะกดปรีย์ทวีวาย
ขอให้หลงพะวงชาย มิคลายรักพี่สักครา
.....taka-jane....

ฝัน...อีกแล้วเหรอเรา
ริวทาโร่หาวติดๆกันหลายครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงไม้เก่าที่ได้มาจากเมมเบอร์
ตั้งแต่ย้ายเตียงหลังนี้เข้ามานอนแทนฟูกที่เคยนอนประจำ เจ้าหนูตาโตก็สังเกตว่าตัวเองหลับง่ายขึ้น หลับสบายขึ้น แทบจะไม่อยากลุกจากที่นอนเลย
และที่สำคัญ.....ควมฝัน...นั้น....น่าอายเหลือเกิน
กอดกระชับหมอนอิงไว้แนบอก และหลับตาลงอีกครั้งอย่างว่าง่าย
เพราะความคิดถึงหรือเปล่านะ...ถึงได้ฝันเห็นแต่อ้อมแขนอันอบอุ่นของเคย์โตะ ตั้งแต่เวิลด์ทัวร์รอบวันเกิดเรียวสุเกะ ก็ไม่ได้เจอเคย์โตะอีกเลย
คงไม่คิดถึงกันละมั้ง....

ปากอุ่นๆที่จูบไล้ปลายคาง ลากผ่านมายังริมฝีปาก ทั้งอุ่นและนุ่ม จนไม่นึกอยากให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน...
"คิดถึงริวจัง..." เสียงเอื้อนเอ่ยนั้นทำให้ริวทาโร่ปรือตาขึ้น ตาคงพร่าเพราะแอบร้องไห้คิดถึงมากเกินไปสินะ เพราะดวงหน้าที่อยู่ใกล้จนลมหายใจรดผ่าน เป็นคนที่เขากำลังคิดถึง...
"เด็กขี้เซา...ไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ"น้ำเสียงนั้นลอยเหมือนมาจากที่ห่างไกล ปล้ำเหรอ?...ถ้าโดนเคย์โตะปล้ำก็ดีนะสิ
........
....
ริวทาโร่ยืนนิ่งหน้ากระจกในห้องน้ำ
คิสมาร์ค...อีกแล้ว
นอนตื่นขึ้นมาทีไรได้มีคิสมาร์คติดตัวให้ได้หวังว่าไอ้ที่ฝันหน่ะเป็นเรื่องจริงทุกท
เดินออกจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับชินทาโร่ที่เข้ามาป้วนเปี้ยนพอดี
ปึ๊ก!!
โอ๊ะ....เดี๋ยวนี้ชินทาโร่ไม่ใช่เด็กตัวน้อยเหมือนแต่ก่อนที่จะล้มจ้ำเพราะชนกันกับพี่ชายอีกแล้ว คนเซจึงกลายเป็นริวแทน
"ตื่นได้แล้ว...ทำตัวเป็นเจ้าญิงนิทราอยู่ได้ นอนอะไรนักหนาวะ..."
ีช่างไม่น่ารักเอาเสียเลย ทั้งที่แต่ก่อนชอบเรียก พี่ชายมั่งหล่ะ แต่ตอนนี้กลับเรียกชื่อริวห้วนๆเสียอย่างนั้น ติดนิสัยจูริมาแน่ๆ
"ขอขี้เกียจมั่งเหอะ วันนี้ว่าง..."
"ห๊ะ! ว่างได้ไงอ่ะ ทั้งๆที่เราต้องไปถ่ายละครแท้ๆ ไปด้วยกันเลยนะ!"
"ไม่อ่ะ...เจอหน้าทาคาคิเดี๋ยวก็ชวนแต่กลับไปทำงานๆ คนยิ่งขี้เกียจๆอยู่" ริวทาโร่ย่นหน้า กองถ่ายบากะเระเป็นอะไรที่วุ่นวายมากพอๆกับสวนสนุก ไม่อยากไปเลย...
"อ้าว...แล้วพี่เคย์โตะที่มาค้างด้วยทุกวันนี่ไม่เคยชวนกลับหรือไงวะพี่? " ชินทาโร่ช่างสงสัย
ริวหันขวับหาน้องอย่างลืมตัว
"เคย์โตะ..."
"อ้าว...ก็เห็นมาทุกวันและกลับตอนเช้าตลอดหนิ╮(╯_╰)╭ ไม่งั้นนายจะมีช็อคคโกแลตฟองดูว์กินทุกเช้าเหรอ"
ห๊ะ!!

.............Fin.................